Menu

เสียงกระซิบ .. จากตึกสูง ..

วันอังคาร 1 เมษายน, 2014 - เรื่องสั้น ..
เสียงกระซิบ .. จากตึกสูง ..

บ่ายวันอังคารในหน้าหนาวแบบนี้ แสงแดดที่เคยร้อนระอุก็กลับดูอบอุ่นขึ้นมาทันตาจากอากาศเย็นของลมหนาวที่พัดมาแผ่วๆ ในเวลานี้ นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้สัมผัสกับอากาศหนาวในเมืองใหญ่แห่งนี้ จากชีวิตที่เร่งรีบต้องแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นยื้ือแย่งช่วงชิงโอกาสและความได้เปรียบในสังคมเมืองเพื่อคุณภาพที่ดีของชีวิต

เด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมแล้วนับแสนคนที่ก้าวพ้นจากรั้วของสถาบันอันเป็นที่บ่มเพาะความเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ส่วนใหญ่ต้องออกมาทำวิจัยฝุ่นกันแทบทั้งนั้น หลายคนก็โชคดีได้เข้าทำงานในตำแหน่งที่มีชื่อเรียกอย่างหรูหราว่า GB=General Bae หรือรับใช้ทั่วไปในออฟฟิศที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ความสามารถที่อุตส่าห์เพียรพยายามร่ำเรียนมาตลอดสี่ปีนั้นแม้แต่น้อย แต่ก็ยอมที่จะรับตำแหน่งนี้อย่างหน้าชื่นตาบานโดยหวังว่าจะเติบโตขึ้นไปเป็น MDB=Managing Director of Bae หรือหัวหน้าเบ๊จบใหม่อีกที เป็นวงวัฏแบบนี้ต่อไปไม่รู้จบ

whisper-01Picture : https://www.blognone.com

ออฟฟิศผมลอยอยู่บนตึกสูงที่ให้เช่าพื้นในอากาศในราคาตารางเมตรละหลายแสนบาทเพียงแค่ทำเลดีอยู่ในย่านธุรกิจ มีน้องคนหนึ่งที่บริษัทรับเข้ามาในตำแหน่ง GB ที่ผมว่านี่แหละ จบคอมพิวเตอร์มาแต่ต้องมาทำงานที่ไม่ถนัดอย่างงานบริการให้กับรุ่นซีเนียร์ที่อยู่มานานอย่างรุ่นผม แต่ด้วยค่าแรงเริ่มต้นตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจึงยอมอดทนอยู่ให้รุ่นใหญ่โขกสับเอาทุกวันแบบนี้

ไอ้เจ้าน้องคนนี้มันค่อนข้างจะสนิทสนมกับผมเป็นพิเศษเพราะเป็นศิษย์น้องจากสถาบันเดียวกัน แต่เราทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนเพราะตอนที่ผมจบออกมาเจ้านี่ยังเรียนอนุบาลอยู่เลยมั๊ง แต่ดังปราชญ์ชาวจีนท่านหนึ่งได้กล่าวไว้เมื่อพันปีก่อนว่าเลือด(แห่งสถาบัน)ย่อมเข้มข้นกว่าน้ำอำมฤต จึงเป็นเหตุให้ผมต้องกลายเป็นพี่เลี้ยง(เลี้ยงจริงๆ)ของมันไปโดยปริยาย เลี้ยงแทบทุกอย่างจริงๆ จนใครๆ ที่ออฟฟิศนึกว่าผมเริ่มเบี่ยงเบนทางเพศเข้าให้ซะแล้ว

ขอแนะนำให้รู้จักกับ ”เอก” หนุ่มน้อยหน้ามนคนขยันรุ่นน้องจากสถาบันเดียวกับผมที่ผมร่ายยาวให้ฟังกันมาหนึ่งย่อหน้าเต็มๆ เอกเป็นเด็กผู้ชายร่างเล็ก ผิวขาว ตากลมบ้องแบ๊ว ไว้ผมปรกหน้าแบบกะลาครอบแต่ไถเกรียนด้านข้างหู นี่มันทรงผมขัดใจแม่ชัดๆ ผมเคยลองถามๆ เจ้าเอกว่า “เฮ้ย..พี่ถามจริงๆ เหอะ แม่แกเค้าไม่หงุดหงิดบ้างเหรอว๊ะ เวลาเห็นผมทรงนี้ของเอ็งเนี่ย” มันตอบผมว่ายังไงรู้ไม๊ครับ “พี่รู้ป่ะว่าการไว้ผมทรงไหนเนี่ย มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทุกคนนะ รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ไว้ด้วย ใครจะมาบังคับไม่ได้โดยเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะฟ้องละเมิดนะ” ดุมันตอบสิครับ หัวหมอซะด้วยไอ้นี่ แต่ผมก็ไม่ได้ไปใส่ใจกับคำตอบแบบปัญญาชนประจำออฟฟิศของมันสักเท่าไหร่

ตามประสาหนุ่มโสดอย่างผมและเพื่อนที่โสด(เฉพาะเวลาอยู่นอกบ้าน)หลายๆ คน ถึงเย็นย่ำค่ำคืนวันศุกร์ก็จะเป็นวันพักผ่อนแบบผู้ชายที่จะพากันไปอาบน้ำนวดตัวคลายเมื่อยกัน ก็จะหนีบเอาเจ้าเอกไปด้วยโดยพี่ๆ ก็จะลงขันสมนาคุณให้น้องได้ผ่อนคลายจากที่ต้องรับใช้พวกเรามาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ก็รู้สึกแปลกใจอยู่ว่าทำไมมันถึงได้อึกอักๆ ไม่ยอมขึ้นห้องไปกับน้องสาวคนสวยที่พี่ๆ จัดให้ กว่าจะเข็นให้มันขึ้นห้องไปได้ก็แทบจะกราบกรานกันเลย พี่ๆ ก็นึกขำอยู่ในใจว่าสงสัยไม่เคยเที่ยวมาก่อนเลยเก้ๆ กังๆ กลัวทำเสียชื่อหรือเปล่า แต่จนแล้วจนรอดก็ส่งมันเข้าประตูสวรรค์ไปได้แบบทุลักทุเลทุกครั้ง และทุกครั้งก็จะเห็นเจ้าเอกลงมานั่งรอพวกเราอยู่ข้างล่างก่อนทุกครั้งเหมือนกัน ยังคิดว่าไอ้นี่มันสิงห์ปืนไวหรือยังไงกันนะ

ชีวิตวัยหนุ่มของเจ้าเอกและชีวิตวัยรุ่น(ใหญ่)ของพวกผมก็ดำเนินต่อไปโดยราบรื่น งานโปรแกรมเมอร์ที่เจ้าเอกใฝ่ฝันอยากทำก็ยังคงไม่ได้ทำและพวกเราก็ยังคงมีกิจกรรมนวดตัวกัน 1 – 2 สัปดาห์/ครั้งต่อเนื่องเรื่อยมาจนผ่านไปเป็นปี จนกระทั่งวันนึงเจ้าเอกเดินมาบอกผมว่าสิ้นเดือนนี้จะออกแล้วเพื่อไปเรียนต่อที่เกาหลีแล้วนะ ผมยังแซวมันอยู่ว่า “เฮ่ย นี่มึงจะไปเรียนต่อหรือไปผ่าตัดทำศัลยกรรมว๊ะ .. ที่เกาหลีเนี่ยนะ ..!!!” เจ้าเอกก็บอกว่า “ไปเรียนเป็นหมอมั๊งพี่” แล้วก็หัวเราะอายๆ แล้วในวันที่เดินทางพวกพี่ๆ ยังพากันแห่ไปส่งที่สนามบินเล่นเอาร่ำลากันซะครึกครื้นเฮฮาเหมือนดีใจที่น้องไป(ซะทีก็..)ดี .. (ฮา)

เราขาดการติดต่อกับเจ้าเอกไปร่วมสองปีเพราะไม่อยากกวนใจน้องเวลาเรียน คิดว่าคงเรียนหนักเพราะเจ้าเอกก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาเช่นกัน จนผมก็เกือบจะลืมเรื่องราวของน้องชายร่วมสถาบันคนนี้ไปแล้ว แต่มันก็มีเรื่องขึ้นมาจนได้

ค่ำวันศุกร์ของสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม ที่ออฟฟิศเรามีจัดเลี้ยงฉลองคริสต์มาสกับปีใหม่ไปพร้อมกันในงานเดียว แต่มันยังไม่ถึงวันปีใหม่ซะหน่อยยังต้องทำงานกันในวันจันทร์อีกหนึ่งวันถึงจะเริ่มหยุดยาว พวกเราดื่มกินกันที่งานเลี้ยงจนได้ที่กำลังตกลงกันอยู่ว่าจะไปต่อที่ไหน พลันเสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นฮิตไปทั่วโลกกับระบบปฏิบัติการไอเอสโอ(ระบบปฏิบัติการแห่งชาติของผู้ใหญ่กระทรวงไอทีแห่งประเทศสารขัณฑ์ .. กร๊ากกกก ..) .. เจ้าไอโฟนของผมก็แสดงหมายเลขโทรเข้าแปลกๆ ที่ไม่มีใน Contact ของเครื่องผม พอกดรับสายที่บลูทูธเสียงจากปลายสายที่คุ้นหูก็ตะโกนสวนมา “เฮ้ย ไอ้พี่ชายสุดที่รัก คิดถึงเมิงมากเลยว่ะพี่ ผมกลับมาเมืองไทยแล้วนะ” ผมจำเสียงนี้ได้ดี เจ้าเอกนั่นเองที่โทรเข้ามา ยังนึกด่ามันแบบขำๆ อยู่ในใจว่าที่มันพูดมาในสายเมื่อกี๊นี้เนี่ยตกลงมันจะเคารพผมหรือเปล่าหว่า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเท่ากับว่าเจ้าเอกของพวกพี่ๆ ขณะนี้มันกลับมาแล้ว

Copyright@2013 by S.Jittapol

Copyright@2013 by S.Jittapol

หลังจากเสวนากันโขมงโฉงเฉงอยู่พักนึงก็ได้ความว่าคืนนี้เรานัดเจอกันที่ร้านประจำที่เคยดื่มกินกันแถวเลียบทางด่วนเวลาประมาณสี่ทุ่มเป็นอันตกลงตามนั้น พวกผมออกจากออฟฟิศแถวย่านอโศก-สุขุมวิทราวๆ สองทุ่มครึ่งได้ บุกฝ่าการจราจรของค่ำวันศุกร์สิ้นเดือนที่ดูชุลมุนวุ่นวายราวกับเกิดจราจลกว่าไปถึงร้านกับครบทุกคันก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว จึงพากันเข้าไปจับจองโต๊ะประจำที่พวกเราเคยมานั่งเฝ้าดูฟุตบอลอังกฤษแข่งกันในวันเสาร์แทบทุกสัปดาห์จนเด็กๆ ในร้านถามว่าพี่มีหุ้นอยู่ในทีมกันเหรอเห็นแข่งจบทีไรแบ่งตังค์กันทีละเยอะๆ ทุกทีเลย แต่วันนี้เป็นวันศุกร์มันควรจะเป็นวันที่พวกเราจะต้องไปอาบน้ำนวดตัวกันต่างหาก พอมีการเปลี่ยนกิจกรรมของชายโสดแบบนี้ ก็เลยได้แต่นั่งทอดอารมณ์สอดส่ายสายตามองหาสาวๆ สวยๆ เดินไปเดินมาสลับกับรถราที่ยังวิ่งกันขวักไขว่แม้จะล่วงเลยไปจนย่างเข้ายามดึกดื่นค่ำคืนแล้วก็เถอะ

พวกเรานั่งละเลียดวิสกี้ของบักจอห์นนี่นักเดินไปได้ครึ่งขวดลิตรแล้ว เจ้าเอกก็ยังไม่มาซักที ผิวหน้าของพวกเราก็เริ่มตึงจนจะออกด้านๆ หน่อยแล้ว จากเริ่มคุยกันเบาๆ แค่พอได้ยินกันในโต๊ะ ก็เริ่มจะเสียงดังขึ้นเพราะหูของพวกเราก็เริ่มจะอื้อๆ ได้ยินอะไรไม่ค่อยชัดเจนจนหลายโต๊ะรอบข้างเริ่มหันมาชื่นชมพวกกันงุบงิบๆ แต่ถึงหูเราจะเริ่มเสียสมรรถภาพการรับฟัง แต่สายตาของพวกเรากลับดีขึ้นเพราะมองให้อะไรได้ยาวไกลมากขึ้นแปรผกผันตามอายุที่เหลือน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ

whisper-03Picture : http://www.asia-bars.com

แต่แล้วอยู่ดีๆ ผู้ชายในร้านแทบทุกคนทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มมากหรือแม้กระทั่งหนุ่ม(เหลือ)น้อยก็พร้อมใจกันเงียบกริบ อ้าปากค้างจากภาพที่ปรากฎตรงหน้า สาวสวยหน้าหวานผิวขาวร่างเล็กเพรียวเรียวระหงในชุดแซ็ครัดรูปสั้นเสมอหู สีดำผ่าข้าง ด้านหลังเว้าลึกคอกว้างผ่าลงมาจนเห็นร่องอกเผยอเนินนูนอวบอิ่มขาวใสจนแทบจะหลุดทะลักออกมาด้านนอก กับหน้าท้องที่แบนราบก็ยิ่งช่วยเสริมเน้น curve รูปตัว S ของทรวดทรวงให้โดดเด่น ทั้งส่วนนูนอวบอิ่มในส่วนที่ควรจะนูน บวกกับส่วนเว้าเข้ารูปในส่วนที่ควรจะเว้า มันยิ่งช่วยเร่งเร้าเลือดลมในกายให้พลุ่งหล่านจนแทบกระฉูดออกมาในนาทีนั้นเสียเลย

เธอย่างกรายดุจนางพญาจากหน้าร้านเดินตรงมาสุดทางเลี้ยวขวาผ่านสามแยกปากหมาที่โต๊ะพวกเราเข้ามาประจำการอยู่และทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะมุมด้านในสุดใกล้กับบาร์เครื่องดื่ม ผมมั่นใจว่าผู้ชาย 99.99% ที่นั่งอยู่ในร้านตอนนี้ไม่แต่เฉพาะที่มาคนเดียวนะ แม้แต่มากับแฟนหรือภรรยาคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะครอบครองเธอสักคืนกันทุกคนแน่ๆ เพราะเห็นหลายคนเริ่มวางฟอร์มสุนัขชราภาพ(หมาแก่)เข้าไปตีสนิททักทายเลี้ยงเครื่องดื่มกันหลายคน แต่ก็หน้าละห้อยกลับมาทุกคน ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรไปดับฝันค้างคืนของหนุ่มน้อยใหญ่เหล่านั้นกันนะ

ผมเริ่มหันไปตีสนิทชวนเธอคุยในฐานะที่โต๊ะของเธอกับโต๊ะของเราอยู่ใกล้กัน มุมนี้เป็นมุมที่โปรดปรานของพวกเรามาตั้งแต่สมัยร้านเปิดใหม่ๆ เป็นมุมประจำของสมาชิกในการเชียร์ฟุตบอลทีมโปรด ห่างไกลสายตาคนอื่นในการส่งงบประมาณสนับสนุนเจ้าของทีมที่ชนะการแข่งในคืนนั้นๆ เธอเองก็หยิบยื่นไมตรีให้กับผมเช่นกัน เพราะอาจจะเป็นแฟนทีมหงส์ปีกหักจากย่านเมอร์ซี่ไซด์เหมือนกัน กับเสียงเพลงที่ค่อนข้างดังพอสมควรจากดีเจสาวเสียงใสในเพลงไทยสไตล์มันๆ ทำให้ฟังเสียงกันไม่ค่อยได้ยินนัก อีกทั้งหูทั้งสองข้างของผมเองก็อื้ออึงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จากบักจอห์นนี่นักเดินที่พาช่วงเวลาดีๆ เดินมาจนเกือบหมดขวดลิตรแล้วในตอนนี้ พอจับความได้นิดหน่อยที่ว่าเธอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศแล้วนัดเพื่อนรุ่นพี่ไว้ที่ร้านนี้ ผมเลยนึกขึ้นได้ว่านี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนี่นะทำไมเจ้าเอกมันยังไม่มาซะทีล่ะ ถ้ามันจะไม่มาก็ดี คืนนี้เผื่อลูกพี่อย่างผมจะโชคดีกับเค้าบ้างก็เป็นได้ เลยให้เพื่อนในทีมงานโทรตามเจ้าเอกโดยด่วนจะได้รู้ว่าจะมาหรือเปล่า? ส่วนผมก็เอาเวลาไปนั่งคุยกับสาวสวยอย่างน้องเอลลี่ดีกว่า

ผมเหมือนคนที่ดวงกำลังขึ้นนะ จะทำอะไรก็เข้าทางไปไปซะหมด ติดต่อเจ้าเอกก็ไม่ได้เพราะตัดไปเข้าระบบฝากข้อความซะทุกครั้ง ส่วนผมก็มึนจนเข้าที่ น้องเอลลี่ก็เมาจนเข้าทางแล้ว ก็คงจะถึงเวลาเดินทางไปสู่ประตูสวรรค์ชั้นสุดยอดของเรากันเสียทีสินะ ผมกับเพื่อนๆ เดินออกจากร้านพร้อมสายตาที่หลายสิบคู่ที่ได้แต่มองอย่างสอดรู้สอดเห็นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากและซุบซิบกัน ผมคิดว่าคงจะอิจฉาในความโชคดีของผมที่จะได้ใช้เวลาแห่งค่ำคืนนี้กับนางฟ้าผู้เลอโฉม พวกเราแยกกันที่หน้าร้านกลับสู้บ้านใครบ้านมัน เพียงแต่คืนนี้ผมไม่ได้กลับคนเดียวเท่านั้น

whisper-04Picture : http://www.poolprop.com

ซีรี่ย์เจ็ดจากเยอรมันสีดำเงาวับขับเลี้ยวเข้ามาจอดที่คอนโดสูงเสียดฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านถนนพระรามสามอันเป็นนิวาสสถานพักพิงชั่วคราวในเวลาที่ผมต้องการอยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน เรียกได้ว่าเป็นเซฟเฮ้าส์สำคัญของผมเลยก็ว่าได้

บนชั้นที่ 40 ที่มีเพียง 8 ห้องกับวิวแม่น้ำสายหลักที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศในยามค่ำคืน กับการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นพร้อมแสงไฟสลัวที่สาดแสงนุ่มออกจากผนังห้องน้ำที่เป็นกระจกฝ้ามันดูช่างน่าหลงใหลเป็นยิ่งนัก ระเบียงกว้างที่จัดสวนญี่ปุ่นไว้อย่างสวยงามพร้อมน้ำตกเล็กๆ ที่ส่งเสียงแผ่วๆ ตลอดทั้งคืนก็หันมากระทบกับแสงจันทร์ที่ส่องสาดอาบแสงอุ่นไปทั่งบริเวณ พลาสม่าทีวีที่ติดอยู่บนผนังอยู่ในสถานะแสตนด์บาย โซฟาเบดที่จัดเรียงเข้ามุมไว้อย่างลงตัวกับแสงไฟดาวน์ไลท์สีทังสเตนเหลืองอุ่นที่ถูกปรับระดับลดลงให้มองเห็นกันแค่เงาของแสงอ่อนจากระเบียงที่กระทบเข้ากับเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของสาวสวยที่มานอนเคลียคลอด้วยกันบนเดียงหนานุ่มขนาดคิงส์ไซส์มันยากที่จะหาคำไหนมาอธิบายถึงความสุขนี้ได้อีกแล้ว

whisper-05Picture : http://www.thaihometown.com

ความสุขตลอดค่ำคืนอันยาวนานจนกาลเวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ ผมร่วงผลอยหมดสภาพหลับไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของบักจอห์นนี่หรือเพราะเสียพลังงานไปเยอะตลอดค่ำคืนนี้ก็ไม่รู้ ลืมตามาอีกทีแดดอ่อนๆ ก็สาดส่องลอมช่องของผ้าม่านสีเข้มเข้ามากระทบกับใบหน้าอันยับยู่ยี่ของผม ดูจากสภาพห้องแล้วเมื่อคืนคงมีสงครามเกิดขึ้นกันที่นี่เป็นแน่แท้ เสื้อผ้าของผมกองเกลื่อนกระจัดกระจายไปคนละทางสองทาง หันมาดูตัวเราทำไมไม่ใส่เสื้อผ้านอนล่ะ พลันเริ่มลำดับเหตุการณ์ สติเริ่มกลับคืนมาความทรงจำสีจางๆ ก็เริ่มแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย น้องเอลลี่หายไปแล้ว นึกว่าฝันไปซะอีกนี่ผมเป็นคนที่โชคดีหรือนี่

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงจากปลายสายตะโกนกระเซ้ามาว่าสบายตัวเลยล่ะสิ วันนี้หยุดงานหรือไง เมื่อคืนไม่พอเหรอ? ก็คุยกันไปตามประสาแล้วก็ทิ้งท้ายด้วยการทำสัญญาปากเปล่าเพื่อสนับสนุนทีมฟุตบอลจากอังกฤษอีกคู่ในคืนนี้ หลังวางสายจากหมู่มวลมหาสมาชิกร่วมแก๊งค์ไปได้ไม่นาน ผ่านการชำระล้างคราบไคลที่เกาะเกี่ยวเหนียวตัวอยู่ทั้งคืนออกไปเสียบ้าง แล้วจะได้มาเพลิดเพลินกับกาแฟหอมกรุ่นรสเข้มในสายๆ วันหยุดแบบนี้กับข่าวสารบ้านเมืองจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ให้สุขกายสบายอุราเสียหน่อย พร้อมกันก็เอื้อมมือไปกดรีโมทเปิดเครื่องเสียงชุดโฮมเธียเตอร์ที่ติดตั้งระบบเสียง 3D Surround DVB T2 THX DTS อะไรสารพัดที่เซลล์ขายเครื่องเสียงสาธยายเป็นคุ้งเป็นแควให้ฟัง ทั้งที่ผมไม่เข้าใจที่เค้าพูดเลยสักอย่าง แค่มันฟังวิทยุ ดูหนังบลูเรย์ได้ ร้องคาราโอเกะเพลินๆ ได้ก็โอเคแล้วสำหรับผม

เนื้อร้องของเพลงแรกจากเครื่องเสียงราคาเกือบครึ่งล้านที่ลอยกระทบโสตประสาท มันทำให้ผมสะดุดกึกกับเพลงไทยสมัยนี้ ..

ฉันเป็นกะเทย รักใครไม่เคยนอกใจ

ปลอมแค่เพียงกาย แต่ว่าหัวใจข้างในไม่ปลอม

รักฉันได้ไหม ฉันมีแต่ให้ ฉันมีแต่ยอม

ดอกไม้ปลอม ปลอม รอคนเมตตาเข้ามาดอมดม

ถึงเป็นกะเทย ฉันก็ไม่เคยนอกใจ

ปลอมแค่เพียงกาย แต่ว่าหัวใจข้างในไม่ปลอม

รักฉันได้ไหม ฉันมีแต่ให้ ฉันมีแต่ยอม

ดอกไม้ปลอม ปลอม รอคนเมตตาเข้ามาดอมดม

ผู้หญิงปลอม ปลอม รอคนเมตตาเข้ามารักกัน


รู้สึกว่ามันช่างเปิดเผยจนเป็นที่ยอมรับกันในสังคมไปแล้วล่ะมั๊ง สมัยนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไป สิทธิในการเลือกเพศ เลือกที่จะเป็นเพศไหนมันเป็นสิทธิอันชอบธรรมของสังคมสมัยใหม่ไปแล้ว มีทั้งศิลปิน นักแสดง บุคคลสาธารณะ ไอดอลของหลายๆ คนก็ออกมาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกันดาษดื่น เรื่องนี้ผมไม่ขอยุ่งแล้วกัน(เลียนแบบคุณริว จิตสัมผัสสักหน่อย .. ฮ่าๆๆ)

จู่ๆ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเจ้าเอกไม่ได้มาตามนัดนี่นา เลยกดโทรศัพท์ไปหาเจ้าเอกตามเบอร์ใน List ก็ได้ยินเสียงรอสายบอก บอก บอกว่าให้รอ .. ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ .. เอ๊ย .. บริการรับฝากข้อความของหมายเลข ศูนย์ X-XXXX-XXXX กรุณาฝากข้อความหลังจากได้ยินสัญญาณ .. ตู๊ดดดดดด ..

ผมโทรอยู่เป็นสิบครั้งแต่ก็ฝากข้อความทุกครั้ง จนเริ่มท้อเลยเดินไปหาเสื้อผ้าใส่จะได้ออกไปหาอะไรกินเป็นมื้อกลางวันแล้วจะได้เข้าออฟฟิศไปเอางานกลับมาทำในวันหยุดอีกสักหน่อย ปีใหม่จะได้มีเวลาเที่ยวได้หลายๆ วัน แต่สายตาก็ต้องไปสะดุดเอากับเจ้า Samsung Galaxy S3 วางทิ้งไว้ที่หน้าโต๊ะข้างเตียง ไม่ใช่ของผมแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นของน้องเอลลี่ ผมก็ขอคิดเข้าข้างตัวเองว่า เธออาจทิ้งโทรศัพท์ไว้เผื่อจะได้ติดต่อกลับมาเพื่อนัดเจอกันอีกหรือเปล่า? .. ฝันหวานไปอย่างนั้นแหละ .. แต่โทรศัพท์ปิดอยู่นี่นาแล้วจะติดต่อกันได้ยังไง ..? ผมเลยรีบเปิดโทรศัพท์ของน้องเอลลี่เผื่อเธออาจจะโทรเข้ามาแล้ว ..

ทันทีที่เจ้า Samsung ของน้องเอลลี่แสตนด์บาย ก็มีข้อความตัวอักษรจากศูนย์ข้อความของผู้ให้บริการส่งเข้ามาบอกว่ามีสายที่ไม่ได้รับนับสิบสาย ผมก็รีบเปิดอ่านข้อความ .. แล้วก็พาลจะเป็นลม วิงเวียนหน้ามืด ตกใจที่สุดตั้งแต่เกิดมาในชีวิตลูกผู้ชายทั้งแท่งของผม ..

เพราะหมายเลขที่แสดงอยู่ต่อสายตาของผมนั้น .. มันคือ ..

. . . ห ม า ย เ ล ข โ ท ร ศั พ ท์ ข อ ง ผ ม เ อ ง   . . ! ! ! ! . . .

– – –  น า ย เ ม ษ า  – – –

อังคาร 1 เมษายน 2557 เวลา 18:28 น.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

Free Web Hosting